DFSK "ตงฟง V21" กระบะจีนสัญชาติไทย เพื่อตอบรับธุรกิจ SME

บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะรถกระบะขนาดเล็ก รุ่นใหม่ล่าสุดขึ้น บนเส้นทางทดสอบกว่า 500 กม. จากกรุงเทพ สู่หัวหิน เพื่อให้ได้ลองสมรรถนะและความประหยัดของเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 1.3 ลิตร บล๊อกใหม่ที่ใช้พื้นฐานการออกแบบพัฒนาจากอิตาลี มีแรงม้าถึง 82 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ พร้อมกับแรงบิด 102 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์เพียงแค่ 3,000-3,500 รอบเท่านั้น โดยผ่านชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 5 สปีด ที่ให้การใช้งานที่คล่องตัว โดยเฉพาะน้ำหนักคลัตช์ที่เบา ให้ความสบายในการใช้งานในเมืองได้เป็นอย่างดี อัตราทดของชุดเกียร์ที่ติดตัวมา เน้นการรองรับงานบรรทุกได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับรอบในการเดินทางท่อาจจะสูงขึ้นอีกนิด ซึ่งในการเดินทางทดสอบในทริปนี้ V21 สามารถใช้ความเร็วในการเดินทางที่ระดับ 100 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ อีกทั้งความประหยัดพลังงานจากเชื้อเพลิงที่มีให้เลือกใช้ได้ 2 ทางเลือก ทั้งในแบบน้ำมันเบนซิน และเชื้อเพลิงแก๊ส LPG ที่มีราคาถูกและเติมได้ง่าย สามารถเดินทางในระยะทางกว่า 200 กม. กับปริมาณแก๊ส 1 ถัง
อ่านเพิ่มเติม

รู้ไว้ใช่ว่ากับตงฟง เรื่อง วิธีการรักษาเครื่องยนต์เบื้องต้นสำหรับรถที่ติดแก๊ส LPG

วิธีการลดการสึกหรอของบ่าวาล์วเบื้องต้นนั้นผู้ขับหรือเจ้าของรถที่ ติดแก๊ส LPG ก็สามารถปฏิบัติเองได้ นั้นคือการไม่ขับรถเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะในเวลาที่อากาศร้อน และเดินทางไกล โดยไม่มีการพักเครื่อง ดังนั้นควรมีการพักเครื่องบ้างเมื่อใช้งานไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหมั่นดูแลระบบระบายความร้อน และระบบหล่อเย็น, พัดลมให้อยู่ในสภาพดีไม่อุดตัน ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่สูง (SAE) และใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติเฉพาะซึ่งผู้ผลิตได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติที่ใช้งานโดยเฉพาะ แก้ปัญหาของการสึกหรอบ่าวาล์วได้โดยตรง 
เพียงเท่านี้การติดตั้งแก๊ส LPG ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคุณอีกต่อไป การเลือกติดตั้งนอกจากจะสะดวกในการหาปั๊มเติมแก๊สแล้ว ยังช่วยให้คุณเงินได้อีกประมาณ 50% หากเทียบจากการเติมน้ำมันปกติ 

การติดตั้งควรเลือกศูนย์ติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน และได้รับการรับรองโดยกรมขนส่งเพื่อคุณภาพที่ดีและความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งานของคุณ 

วิธีการรักษาเครื่องยนต์เบื้องต้นสำหรับรถที่ติดแก๊ส LPG

อย่างไรก็ดี วิธีการลดการสึกหรอของบ่าวาล์วเบื้องต้นนั้นผู้ขับหรือเจ้าของรถที่ติดแก๊ส LPG ก็สามารถปฏิบัติเองได้ นั้นคือการไม่ขับรถเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะในเวลาที่อากาศร้อน และเดินทางไกล โดยไม่มีการพักเครื่อง ดังนั้นควรมีการพักเครื่องบ้างเมื่อใช้งานไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหมั่นดูแลระบบระบายความร้อน และระบบหล่อเย็น, พัดลมให้อยู่ในสภาพดีไม่อุดตัน ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่สูง (SAE) และใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติเฉพาะซึ่งผู้ผลิตได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติที่ใช้งานโดยเฉพาะ แก้ปัญหาของการสึกหรอบ่าวาล์วได้โดยตรง 
เพียงเท่านี้การติดตั้งแก๊ส LPG ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคุณอีกต่อไป การเลือกติดตั้งนอกจากจะสะดวกในการหาปั๊มเติมแก๊สแล้ว ยังช่วยให้คุณเงินได้อีกประมาณ 50% หากเทียบจากการเติมน้ำมันปกติ 
    

การติดตั้งควรเลือกศูนย์ติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน และได้รับการรับรองโดยกรมขนส่งเพื่อคุณภาพที่ดีและความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งานของคุณ 

สาระน่ารู้เกี่ยวกับแก๊ซ LPG

•      สาระน่ารู้เกี่ยวกับแก๊ซ LPG

สำหรับการนำแก๊ส LPG มาใช้ในประเทศไทยเป็นพลังงานในรถยนต์ในปี พ.ศ. 2513 หรือ (36ปี) แต่ ได้รับความนิยมอยู่ในเฉพาะกลุ่มรถยนต์สาธารณะ เช่นรถแท็กซี่ ในอดีตรถยนต์ส่วนบุคคลไม่นิยมที่จะติดตั้งแก๊สนั้นอาจจะเป็นเพราะรถติดแก๊สจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น และกลัวในเรื่องความไม่ปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังรวมถึงการขาดความชำนาญในการติดตั้งของช่าง 
ส่วนปัจจุบันความนิยมที่รถยนต์ส่วนบุคคล ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติกันมากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะว่าค่าน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง และมีศูนย์ติดตั้งที่มีมาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน พร้อมกับมีช่างที่ชำนาญในการติดตั้ง 
  

ผลกระทบที่มีต่อเครื่องยนต์เมื่อติดตั้งแก๊ส LPG

การเผาไหม้ของแก๊ส LPG มีค่าความร้อนสูงประมาณ 400 c˚ ความร้อนเหล่านี้จะทำให้ชิ้นส่วนของบ่าวาล์วนิ่มและอ่อนตัวลง ส่งผลให้เกิดการสึกหรอ ไอดีของก๊าซมีลักษณะเป็นไอแห้ง และไม่มีสารเคลือบบ่าวาล์ว ทำให้เกิดการสึกหรอจากการปิด-เปิดของวาล์ว และชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับค่าความร้อนสูงของแก๊สต่างๆ ดังนั้นจังทำให้เครื่องยนต์ที่ถูกดัดแปลงมาใช้พลังงานแก๊สธรรมชาติเกิดการสึกหรออย่างรวดเร็ว (100,000 กิโลเมตรขึ้นไป) 
  

น้ำมันเครื่อง 2T สามารถบำรุงรักษาเครื่องยนต์ติดตั้งแก๊ส LPG ได้หรือไม่

ในอดีตมีการใช้น้ำมันเครื่อง 2T สำหรับมอเตอร์ไซด์สองจังหวะมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการสึกหรอของบ่าวาล์วซึ่งก็ได้ผลเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะถ้าใช้ต่อเนื่องไปเป็นเวลานานๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการสะสมเขม่า หรือการอุดตัน หัวเทียนบอดและอื่นๆตามมา นอกจากนี้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายมากขึ้นตั้งแต่บ่าวาล์วรั่ว หัวลูกสูบทะลุจนถึงขั้นอาจจะต้องผ่าเครื่องซ่อมกันใหม่ 
ในต่างประเทศเครื่องยนต์ที่มีการดัดแปลงเพื่อใช้ก๊าซแทนน้ำมัน จะห้ามไม่ให้ใช้น้ำมันเครื่อง 2 จังหวะมาใช้เพื่อหล่อลื่น หรือบำรุงเครื่องยนต์ นอกจากจะส่งผลเสียเครื่องยนต์อย่างที่กล่าวไปแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในด้านของมลภาวะ และควันดำ และในปัจจุบันนี้มอเตอร์ไซด์ 2 จังหวะก็เริ่มที่จะยกเลิกการผลิตไปแล้ว